กระบวนการ 13 ขั้นตอนในการพัฒนาเว็บไซต์
Phase 1 สำรวจปัจจัยสำคัญ (Research)
1. รู้จักตัวเอง – กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
2. เรียนรู้ผู้ใช้ – ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ
3. ศึกษาคู่แข่ง – สำรวจการแข่งขันและเรียนรู้คู่แข่งสิ่งที่ได้รับ
สิ่งที่ได้รับ
1. เป้าหมายหลักของเว็บไซต์
2. ความต้องการของผู้ใช้
3. กลยุทธ์ในการแข่งขัน
Phase 2 : พัฒนาเนื้อหา (Site Content)
4. สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
5. หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
สิ่งที่ได้รับ
1.แนวทางการออกแบบเว็บไซต์
2.ขอบเขตเนื้อหาและการใช้งาน
3.ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ
Phase 3 : พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
6. จัดระบบข้อมูล
7. จัดทำโครงสร้างข้อมูล
8. พัฒนาระบบเนวิเกชัน
สิ่งที่ได้รับ
1.แผนผังโครงสร้างข้อมูล
2.แนวทางการท่องเว็บ
3.ระบบเนวิเกชัน
Phase 4 : ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ (Visual design)
9. ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ
10. พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
สิ่งที่ได้รับ
1.ลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์
2.เว็บเพจต้นแบบที่จะใช้ในการพัฒนา
3.รูปแบบโครงสร้างของเว็บไซต์
4.ข้อกำหนดในการพัฒนาเว็บไซต์
Phase 5 : พัฒนาและดำเนินการ (Production and
Operation)
11. ลงมือพัฒนาเว็บเพจ
12. เปิดตัวเว็บไซต์
13. ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
สิ่งที่ได้รับ
1.เว็บไซต์ที่สมบูรณ์
2.เปิดตัวเว็บไซต์และทำให้เป็นที่รู้จัก
3.แนวทางการดูแลและพัฒนาต่อไป
จัดระบบข้อมูลในเว็บ
ปัญหาความคลุมเครือของกลุ่มข้อมูล
- การแบ่งข้อมูลต้องอาศัยพื้นฐานทางด้านภาษามาช่วยเพราะคำหนึ่งคำมีความหมายได้หลายอย่างในเหตุการณ์ต่างกัน
- การแบ่งหมวกหมู่ในเว็บมักจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น
หัวเรื่องหรือข้อความ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจระบบการจัดกลุ่มข้อมูลที่เราได้ออกแบบไว้
การจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล
ได้แก่
การจัดกลุ่มข้อมูลการกำหนดตำแหน่งของข้อมูลและเทคนิคที่ใช้นำเสนอผู้ออกแบบควรจัดกลุ่มข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
โดยรูปแบบการจัดกลุ่มข้อมูลอาจกระทำได้หลายลักษณะ หลักการออกแบบโครงสร้างระบบข้อมูลแบบลำดับชั้นควรมีจำนวน 7 บวกลบ 2 รายการในเมนูที่มีจำนวนรายการมากกว่า 10 จะสร้างความรู้สึกว่ามากเกินไปส่วนความลึกไม่ควรเกิน 4-5 ชั้น เพราะจะทำให้ผู้ใช้อาจหมดหวังและเลิกล้มความตั้งใจได้ โครงสร้างระบบข้อมูลแบบไฮเปอร์เท็กซ์มีลักษณะคล้ายเครือข่ายโยงใยโครงสร้างระบบนี้แบ่งเป็น
2 ส่วนคือ รายการ
หรือกลุ่มข้อมูลที่ถูกลิงค์กับลิงค์ที่เชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้นส่วนใหญ่จึง มักนำระบบนี้มาใช้เป็นส่วนเสริมให้กับโครงสร้างข้อมูลแบบลำดับชั้น
โครงสร้างข้อมูลแบบฐานข้อมูล
มักนิยมใช้กับเว็บขนาดใหญ่
การนำระบบฐานข้อมูลมาใช้ในเว็บจะช่วยเพิ่มความสามารถในการค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
แต่เป็นเรื่องยากที่จะเอาข้อมูลทั้งหมดมาไว้ในฐานข้อมูล
ออกแบบหน้าเว็บใช้แบบจำลองเปรียบเทียบ (Metaphaphor)
การใช้แบบจำลอง มี3วิธี ดังนี้
1.จำลองแบบการจัดระบบ (Organization metaphor)
2.จำลองการใช้งาน (Functional metaphor)
3.จำลองลักษณะที่มองเห็น (Visual
metaphor)
หลักการออกแบบหน้าเว็บ มี7ขั้นตอน
1.สร้างลำดับชั้นความสำคัญขององค์ประกอบ (Visual Hierachy)
2.สร้างรูปแบบ บุคลิกและสไตล์
3.สร้างความสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งเว็บไซต์
4.จัดวางองค์ประกอบที่สำคัญไว้ในส่วนบนของหน้าเสมอ
5.สร้างจุดสนใจด้วยความแตกต่าง
6.จัดแต่งให้หน้าเว็บเป็นระเบียบและเรียบร้อย
7.ใช้กราฟิกที่เหมาะสม
เข้าใจลักษณะแนวทางของเว็บ
1.การใช้เป็นสื่อตรงให้อ่านบนหน้าจอ
2.การใช้เป็นสื่อกลางในการพิมพ์ข้อมูลลงในหน้าเว็บรวบรวมหรืออ่านในภายหลัง
ออกแบบหน้าเว็บให้มีความยาว
โดยทั่วไปควรสร้างเว็บขนาดสั้นสำหรับ : หน้าโฮมเพจ
เลือกใช้เว็บขนาดยาว : สำหรับเนื้อหาเยอะ เหมาะแก่การพิมพ์
การออกแบบหน้าเว็บสำหรับพิมพ์
1.สำหรับอ่านบนหน้าจอ
2.สำหรับพิมพ์
รูปแบบโครงสร้างหน้าเว็บ
1.โครงสร้างหน้าเว็บในแนวตั้ง
2.โครงสร้างหน้าเว็บในแนวนอน
3.โครงสร้างหน้าเว็บที่พอดีกับหน้าจอ
4.โครงสร้างหน้าเว็บแบบสร้างสรรค์
ส่วนประกอบหน้าเว็บ
1.ส่วนหัว (Page Header)
2.ส่วนเนื้อหา (Page Body)
3.ส่วนท้าย(Page Footer)