กรุ๊ปเลือดบอกนิสัย
A : โดยพื้นฐานแล้วคนกรุ๊ปนี้ค่อนข้างเป็นคนเอาจริงเอาจัง
ไม่ชอบสิ่งที่คิดว่า “เป็นไปไม่ได้” สิ่งที่ “เพ้อฝัน” ชอบใช้ชีวิตในความ “เป็นจริง”มากกว่า
ระเบียบจัด! กับบางเรื่อง แต่บางอย่างก็ปล่อยปะละเลยแบบไม่สนใจโดยเฉพาะเรื่องของตัวเอง
มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบการเป็นผู้นำ แต่ในทางเดียวกันก็ไม่ชอบที่จะตามใครเช่นกัน
B : เมื่อพูดคนคนกรุ๊ปนี้สิ่งแรกที่หลายคนคิดถึงคือ ความ “รั่ว” ไม่มีวันสิ้นสุด ชอบความมีสีสันมีความคิดเป็นของตัวเองค่อนข้างสูง มองโลกในแง่ดี ใครดีมาดีตอบใครร้ายมาร้ายตอบ ! ไม่ชอบการเปรียบเทียบ เวลาจริงจังกับอะไรบางอย่างแล้วจะทำเต็มที่ แต่คนอื่นก็มักมองว่าเป็นเรื่องเล่นๆ จัดการเรื่องงานไม่ค่อยเก่งแต่เป็นพวกมีไอเดียดี เข้ากับสังคมได้ง่าย กลัวการ “โดดเดี่ยว”เป็นที่สุด
O : ส่วนใหญ่คนกรุ๊ปนี้มักเป็นพวกขี้เกรงใจ “ปฏิเสธ” คนอื่นไม่ค่อยเป็น เวลาอารมณ์ดีก็ดีใจหายแต่เวลาร้ายก็ร้าย “เว่อร์ๆ” ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดของคน เกลียดการดูถูกเข้ากระดูกดำ รักอิสระ ไม่ชอบการบังคับ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ รักสบายจนดูขี้เกียจ ยิ้มง่าย รักพวกพ้อง เป็นหัวหน้างานได้ดีเพราะรู้จักการวางแผนจัดการเรื่องต่างๆ ไม่ชอบตามคน เหมาะกับงานเดี่ยวมากกว่างานกลุ่ม เพราะต่อให้เป็นงานกลุ่มสุดท้ายก็ต้องทำเองอยู่ดี
AB : การเข้าถึงจิตใจของคนกรุ๊ปนี้ค่อนข้างยาก เพราะชอบคิดอะไรที่ซับซ้อน เป็นพวกไม่ค่อยไว้ใจคน แต่ถ้าลองเชื่อใจใครแล้ว ยอมทำทุกอย่างให้เลยทีเดียว มีแนวทางการดำเนินชีวิตของตัวเองดี และมีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองค่อนข้างสูง ภายนอกคนอื่นมองว่านิสัยคนกรุ๊ปนี้ดูเป็นผู้ใหญ่แต่จริงๆแล้ว ภายในยังเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา เกลียดเรื่องที่ยุ่งยาก เรื่องมาก รายละเอียดยาวๆ ชอบค้นคว้าด้วยตัวเอง รู้จักใช้คนเก่ง กลบเกลื่อนความผิดหวังได้เก่ง ชอบคิดอะไรในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่คิดกัน
ส่วนใครที่ไม่ชอบเสียงเห่าหอน น่ารำคาญของ สุนัข แต่ให้จำไว้เถิดว่าหากคุณเลี้ยง อเมริกันพิทบูล จะไม่ผิดหวัง เพราะ พิทบูล จะไม่ใช่ สุนัข ประเภท เห่าใบตองแห้ง ดังนั้น การที่เจ้า พิทบูล เห่ายอมมีเหตุผลเสมอ ไม่แน่สิ่งที่มันเห็นอาจเป็นสัตว์ร้าย คนแปลกหน้า หรือผู้ไม่ประสงค์ดี อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณรับรู้สัญญาณเตือนอันไม่น่าไว้วางใจได้จากเจ้า สุนัข พันธ์นี้อย่างแน่นอน
หม่ำ จ๊กมก เกิดวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2508 ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) มีพี่น้อง 7 คน เป็นคนกลาง มีน้องสาวที่เล่นตลกคือแวว จ๊กมก ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16-17 ปี มาทำงานอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่งของ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เป็นวงแรก โดยเริ่มทำงานในตำแหน่งคอนวอย (เด็กยกของ) ก่อนจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นหางเครื่อง และตลกตามลำดับ หลังจากนั้น หม่ำ ได้ย้ายไปทำงานกับวงดนตรีลูกทุ่งหลายวง เช่น เกรียงไกร กรุงสยาม, โชคชัย โชคอนันต์ และ สุพรรณ สันติชัย หลังจากนั้น หม่ำ จ๊กมก ตัดสินใจ รวมตัวกับเพื่อนศิลปินตลก ตั้งตลกคณะเก้ายอดขึ้น ก่อนที่ในที่สุด จะได้รับการชักชวนให้มาเล่นตลกในคณะ เทพ โพธิ์งามทำให้หม่ำแสดงตลกร่วมกับคณะเทพ โพธิ์งามมาตลอด โดยใช้ชื่อขณะนั้นว่า "หม่ำ สปาเก็ตตี้" ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "หม่ำ จ๊กม๊ก" โดยรับหน้าที่เป็นตัวประกอบรับมุกในคณะของ เทพ โพธิ์งาม จนหม่ำเริ่มดังเป็นที่รู้จัก เทพ โพธิ์งาม เห็นหม่ำสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว จึงไล่ให้หม่ำออกจากคณะเทพ โพธิ์งาม เพื่อไปตั้งคณะตลกเอง โดยหม่ำได้ออกไปตั้งคณะให้ชื่อว่า คณะหม่ำ จ๊กมก โดยมีสมาชิกคนสำคัญ เช่น จาตุรงค์ มกจ๊ก, เท่ง เถิดเทิง, โหน่ง ชะชะช่า, เป๋อ จ๊กมก เป็นต้น
B : เมื่อพูดคนคนกรุ๊ปนี้สิ่งแรกที่หลายคนคิดถึงคือ ความ “รั่ว” ไม่มีวันสิ้นสุด ชอบความมีสีสันมีความคิดเป็นของตัวเองค่อนข้างสูง มองโลกในแง่ดี ใครดีมาดีตอบใครร้ายมาร้ายตอบ ! ไม่ชอบการเปรียบเทียบ เวลาจริงจังกับอะไรบางอย่างแล้วจะทำเต็มที่ แต่คนอื่นก็มักมองว่าเป็นเรื่องเล่นๆ จัดการเรื่องงานไม่ค่อยเก่งแต่เป็นพวกมีไอเดียดี เข้ากับสังคมได้ง่าย กลัวการ “โดดเดี่ยว”เป็นที่สุด
O : ส่วนใหญ่คนกรุ๊ปนี้มักเป็นพวกขี้เกรงใจ “ปฏิเสธ” คนอื่นไม่ค่อยเป็น เวลาอารมณ์ดีก็ดีใจหายแต่เวลาร้ายก็ร้าย “เว่อร์ๆ” ชอบคิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดของคน เกลียดการดูถูกเข้ากระดูกดำ รักอิสระ ไม่ชอบการบังคับ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ รักสบายจนดูขี้เกียจ ยิ้มง่าย รักพวกพ้อง เป็นหัวหน้างานได้ดีเพราะรู้จักการวางแผนจัดการเรื่องต่างๆ ไม่ชอบตามคน เหมาะกับงานเดี่ยวมากกว่างานกลุ่ม เพราะต่อให้เป็นงานกลุ่มสุดท้ายก็ต้องทำเองอยู่ดี
AB : การเข้าถึงจิตใจของคนกรุ๊ปนี้ค่อนข้างยาก เพราะชอบคิดอะไรที่ซับซ้อน เป็นพวกไม่ค่อยไว้ใจคน แต่ถ้าลองเชื่อใจใครแล้ว ยอมทำทุกอย่างให้เลยทีเดียว มีแนวทางการดำเนินชีวิตของตัวเองดี และมีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองค่อนข้างสูง ภายนอกคนอื่นมองว่านิสัยคนกรุ๊ปนี้ดูเป็นผู้ใหญ่แต่จริงๆแล้ว ภายในยังเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา เกลียดเรื่องที่ยุ่งยาก เรื่องมาก รายละเอียดยาวๆ ชอบค้นคว้าด้วยตัวเอง รู้จักใช้คนเก่ง กลบเกลื่อนความผิดหวังได้เก่ง ชอบคิดอะไรในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่คิดกัน
อเมริกันพิทบูล
อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย (American
Pit Bull Terrier) หรือที่เรียกกันว่า พิทบูล
แค่เอ่ยถึงชื่อสุนัขพันธุ์นี้ก็อาจทำเอาหลายคนออกอาการหวั่นๆ ซะแล้ว ก็สุนัขสายพันธุ์ พิทบูล น่ะดังก้องไปทั่วโลกในเรื่องความดุร้าย
และมักจะถูกประโคมข่าวเมื่อ พิทบูล กัดคนบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับเจ้าของ ทำให้ภาพของ อเมริกันพิทบูล
ในเวลานี้อาจไม่สู้ดีนัก และเป็น สุนัข ควบคุมพิเศษในหลายประเทศ
ซึ่งประเทศไทยกรมปศุสัตว์สั่งห้ามนำเข้าสุนัขพันธุ์ พิทบูล โดยเด็ดขาด
แต่ในประเทศไทยยังลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายอยู่ รวมถึงมีการเลี้ยงอยู่เดิมแล้วจำนวนหนึ่ง
แม้ว่า พิทบูล
จะมีนิสัยพื้นฐานที่ดุร้าย แต่ สุนัข พิทบูล
ก็ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องความจงรักภักดี
มันสามารถตายแทนเจ้าของได้ดังจะเห็นได้จากในอดีตที่ผู้เสี้ยงมักนำมันสู่สังเวียนการต่อสู้
พิทบูล จะสู้จนตัวตายตามใบสั่งของเจ้าของ ดังคำกล่าวที่ว่า "ทาสผู้ภักดี ปีศาจสังหาร"
พิทบูล ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ของ สุนัข บูลด๊อก เดิมทีเป็น สุนัข
อเมริกันพิทบูล ที่ใช้งานต้อน
ฝูงสัตว์ (Cattie dog) เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ
(Shepherds) แต่ต่อมาสุนัขเหล่านั้นถูกนำมาผสมข้ามสาย
พันธุ์
จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ จนได้ อเมริกันพิทบลู ที่มีฟันและกรามที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง
มีกล้ามเนื้อเป็น
มัดๆ และมีความว่องไวสูง และ พิทบูล ก็ถูกนำมาใช้ในกีฬาสู้วัว (Bullbaiting)
แต่ภายหลังกีฬาชนิดนี้
เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
กลุ่มคนที่ชื่นชอบในกีฬาดังกล่าวจึงหันมาจับสุนัขสู้กับสุนัขแทน ทำให้
อเมริกันพิ
ทบลู กลายเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่ามีพละกำลังมากที่สุด
เท่าที่มีการพัฒนาสายพันธุ์กันมา ในความแข็งแรง
ดุร้าย เสน่ห์ของ พิทบูล
อยู่ที่ความจงรักภักดี มีอารมณ์คงที่ต่อมนุษย์
ที่มาของชื่อพันธุ์ พิทบูล จึงได้มาจากกีฬาสู้วัวนั่นเอง ส่วนคำว่า Pit มาจากคำที่แปลว่า หลุม คือ
ที่มาของชื่อพันธุ์ พิทบูล จึงได้มาจากกีฬาสู้วัวนั่นเอง ส่วนคำว่า Pit มาจากคำที่แปลว่า หลุม คือ
ในการคัดเลือกสายพันธุ์ในสมัยโบราณ พิทบูล
สองตัวจะถูกนำไปปล่อยในหลุมที่คนขุดขึ้น ตัวไหนรอด
จากการกัดกันก็จะปีนขึ้นจากหลุม
พิทบูล ตัวนั้นจึงจะได้ดำรงพันธุ์ต่อไป ด้วยเหตุนี้ พิทบูล
จึงมีความ
อดทนและมีความมุ่งมั่นสูงกว่า สุนัข ทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตาม พิทบลู
มีทั้งสายพันธุ์ที่มีไว้กัด และสายพันธุ์โชว์
ด้วยธรรมชาติกัดไม่ปล่อย สุนัข สายพันธุ์นี้ ถือเป็นนักล่าโดยกำเนิด พิทบูล ล่าได้ตั้งแต่ นก หนู ไปจนถึงหมูป่า มันมีความกล้าฝังลึก พิทบูล มีความอดทนต่อความเจ็บปวดทุกรูปแบบ แม้บาดแผลนั้นจะลึกและฉกรรจ์เพียงใด ไม่มีการโต้ตอบจากศัตรูใดที่จะทำให้มันร้องได้
ด้วยธรรมชาติกัดไม่ปล่อย สุนัข สายพันธุ์นี้ ถือเป็นนักล่าโดยกำเนิด พิทบูล ล่าได้ตั้งแต่ นก หนู ไปจนถึงหมูป่า มันมีความกล้าฝังลึก พิทบูล มีความอดทนต่อความเจ็บปวดทุกรูปแบบ แม้บาดแผลนั้นจะลึกและฉกรรจ์เพียงใด ไม่มีการโต้ตอบจากศัตรูใดที่จะทำให้มันร้องได้
ส่วนใครที่ไม่ชอบเสียงเห่าหอน น่ารำคาญของ สุนัข แต่ให้จำไว้เถิดว่าหากคุณเลี้ยง อเมริกันพิทบูล จะไม่ผิดหวัง เพราะ พิทบูล จะไม่ใช่ สุนัข ประเภท เห่าใบตองแห้ง ดังนั้น การที่เจ้า พิทบูล เห่ายอมมีเหตุผลเสมอ ไม่แน่สิ่งที่มันเห็นอาจเป็นสัตว์ร้าย คนแปลกหน้า หรือผู้ไม่ประสงค์ดี อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณรับรู้สัญญาณเตือนอันไม่น่าไว้วางใจได้จากเจ้า สุนัข พันธ์นี้อย่างแน่นอน
ส่วนข้อกังขากรณี
พิทบูล ทำร้ายเจ้าของ
หากผู้เลี้ยงเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ทั้งนี้ หากคุณต้องเข้าบ้านในยามวิกาล จงระลึกไว้เสมอว่า สุนัข
จะมองเห็นเป็นภาพขาวดำเท่านั้น จึงควรเรียกชื่อของเขาก่อนเปิดประตูเข้าบ้าน
เพราะบางทีเราอาจอยู่ในตำแหน่งใต้ลม เขาจึงอาจไม่ได้กลิ่นเจ้าของ ดังนั้น
เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนร้าย จึงควรเรียกชื่อของเขาก่อน เพราะ
อเมริกันพิทบลู จะหวงเจ้าของ หวงบ้าน หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีกล้ำกรายเข้ามา
...รับประกันเสร็จแน่!!!
หม่ำ จ๊กมก เกิดวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2508 ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) มีพี่น้อง 7 คน เป็นคนกลาง มีน้องสาวที่เล่นตลกคือแวว จ๊กมก ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16-17 ปี มาทำงานอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่งของ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง เป็นวงแรก โดยเริ่มทำงานในตำแหน่งคอนวอย (เด็กยกของ) ก่อนจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นหางเครื่อง และตลกตามลำดับ หลังจากนั้น หม่ำ ได้ย้ายไปทำงานกับวงดนตรีลูกทุ่งหลายวง เช่น เกรียงไกร กรุงสยาม, โชคชัย โชคอนันต์ และ สุพรรณ สันติชัย หลังจากนั้น หม่ำ จ๊กมก ตัดสินใจ รวมตัวกับเพื่อนศิลปินตลก ตั้งตลกคณะเก้ายอดขึ้น ก่อนที่ในที่สุด จะได้รับการชักชวนให้มาเล่นตลกในคณะ เทพ โพธิ์งามทำให้หม่ำแสดงตลกร่วมกับคณะเทพ โพธิ์งามมาตลอด โดยใช้ชื่อขณะนั้นว่า "หม่ำ สปาเก็ตตี้" ภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "หม่ำ จ๊กม๊ก" โดยรับหน้าที่เป็นตัวประกอบรับมุกในคณะของ เทพ โพธิ์งาม จนหม่ำเริ่มดังเป็นที่รู้จัก เทพ โพธิ์งาม เห็นหม่ำสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว จึงไล่ให้หม่ำออกจากคณะเทพ โพธิ์งาม เพื่อไปตั้งคณะตลกเอง โดยหม่ำได้ออกไปตั้งคณะให้ชื่อว่า คณะหม่ำ จ๊กมก โดยมีสมาชิกคนสำคัญ เช่น จาตุรงค์ มกจ๊ก, เท่ง เถิดเทิง, โหน่ง ชะชะช่า, เป๋อ จ๊กมก เป็นต้น
ในปี พ.ศ. 2535 หม่ำ จ๊กมก
ได้รับการชักชวนจาก ปัญญา นิรันดร์กุล ให้มาร่วมทำงานกับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ โดยได้มาทำหน้าที่เป็นตัวปริศนาในรายการ ชิงร้อยชิงล้าน ในช่วงชิงบ๊วย
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 และนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
หม่ำ จ๊กมก ก็ทำงานร่วมกับเวิร์คพอยท์มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ผลงานสำคัญของหม่ำ
ในฐานะพิธีกรรายการเกมโชว์ต่าง ๆ
ของเวิร์คพอยท์ เช่น เวทีทอง, ระเบิดเถิดเทิง เป็นต้น
นอกจากนี้ เคยมีผลงานเพลงแนวลูกทุ่งหมอลำมาแล้วด้วยโดยเพลงดังคือเพลง เฮดจังได๋
ปัจจุบัน หม่ำ จ๊กมก
ได้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ โดยมีภาพยนตร์เรื่องแรกคือ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม และ แหยม ยโสธร ที่ทำรายได้เกิน
100 ล้านบาท เป็นเจ้าของบริษัท
เครือบั้งไฟตระกูลวงษ์คำเหลา จำกัด (มหาชน) และ บั้งไฟ ฟิล์ม ผลิตภาพยนตร์
และ บั้งไฟ สตูดิโอ ผลิตรายการโทรทัศน์ (ดูเพิ่มที่ข้อมูลเครือบั้งไฟตระกูลวงษ์คำเหลา)
คือรายการบิ๊กหม่ำ และละคร แฟกทอรีที่รัก พร้อมกับยังรับงานแสดงอยู่
และทำธุรกิจร้านอาหาร โรงลาบยโสธร ติดห้างเดอะมอลล์ บางแค อีกด้วย
หม่ำเรียน กศน.จบชั้น ม.6 พร้อมกับ ธีรเทพ วิโนทัย ที่เรียนสถาบันเดียวกัน
และได้ปริญญาโท มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน
มหาวิทยาลัยรามคำแหง และขณะนี้กำลังศึกษาในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง